ผู้บริหาร Nippon Steel เผย แผนซื้อ US Steel ได้เสียงหนุนจากพื้นที่อุตฯเหล็กในสหรัฐฯ

27 ธันวาคม 2567
ผู้บริหาร Nippon Steel เผย แผนซื้อ US Steel ได้เสียงหนุนจากพื้นที่อุตฯเหล็กในสหรัฐฯ

ทาดาชิ อิมาอิ ประธานบริษัทนิปปอน สตีล (Nippon Steel) แห่งญี่ปุ่น เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวในวันนี้ (25 ธ.ค.) ว่า ข้อเสนอเข้าซื้อกิจการยูเอส สตีล (United States Steel Corp) กำลังได้รับเสียงสนับสนุนจากพื้นที่ต่าง ๆ ในสหรัฐฯ ที่มีโรงงานเหล็กกล้าตั้งอยู่

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ (23 ธ.ค.) คณะกรรมการการลงทุนต่างประเทศในสหรัฐฯ (CFIUS) ได้ส่งเรื่องไปให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะอนุมัติหรือระงับดีลมูลค่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐครั้งนี้ โดยมีกำหนดเวลาตัดสินใจ 15 วัน

ทั้งไบเดนและว่าที่ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ต่างแสดงจุดยืนคัดค้านดีลดังกล่าว

ในวันนี้ อิมาอิย้ำว่า นิปปอน สตีล ได้แสดงความมุ่งมั่นหลายประการเพื่อคลายข้อกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติของ CFIUS พร้อมเสริมว่าเขาเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายเริ่มมี "ความเข้าใจที่ตรงกันมากขึ้น"

"ชุมชนในภูมิภาคต่าง ๆ ที่มีโรงงานเหล็กกล้าตั้งอยู่ ต่างให้การสนับสนุนการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ผมหวังว่าปธน.ไบเดนจะเข้าใจถึง ... คุณค่าที่ดีลนี้จะมอบให้แก่เศรษฐกิจสหรัฐฯ" อิมาอิกล่าว

ก่อนหน้านี้ ทั้งสองบริษัทเคยประกาศว่ามีแผนจะปิดดีลให้เสร็จสิ้นก่อนสิ้นปี 2567 แม้จะเผชิญแรงต้านจากสหภาพแรงงานเหล็กกล้าสหรัฐฯ (USW) ที่ทรงอิทธิพลก็ตาม

ในวันนี้ นิปปอน สตีล ได้เผยจดหมายลงวันที่ 23 ธ.ค. ถึงปธน.ไบเดน ซึ่งมีลายเซ็นของเจ้าหน้าที่เทศบาลสหรัฐฯ กว่า 20 รายจากพื้นที่ที่มีโรงงานยูเอส สตีล ตั้งอยู่ โดยวอนขอให้อนุมัติดีลการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้

"เราขอวิงวอนให้ท่านรับฟังเสียงของคนงานเหล็กกล้าและผู้ที่ชะตาชีวิตผูกติดอยู่กับยูเอส สตีล พวกเขาต่างพูดดัง ๆ เป็นเสียงเดียวกันว่าข้อตกลงนี้ต้องได้รับการอนุมัติ" จดหมายระบุ

ด้านสหภาพ USW ได้ออกแถลงการณ์แยกต่างหาก ระบุว่าได้พบกับเจ้าหน้าที่ของนิปปอน สตีล 2 ครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมย้ำจุดยืนว่าผู้ผลิตเหล็กกล้าญี่ปุ่นรายนี้ไม่ได้ใส่ใจความอยู่รอดระยะยาวของโรงงานยูเอส สตีล หรือการดำเนินงานเตาหลอม และเรียกร้องให้ปธน.ไบเดนรักษาบริษัทให้อยู่ภายใต้การเป็นเจ้าของและดำเนินการโดยคนสหรัฐฯ

เพื่อให้ได้รับการสนับสนุน นิปปอน สตีล เคยประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะไม่ใช้ดีลนี้เป็นช่องทางนำเข้าเหล็กกล้า พร้อมให้คำมั่นหลายประการในการปกป้องการจ้างงานและลงทุนในโรงงานสหรัฐฯ ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นกุญแจสำคัญต่อการเติบโตในอนาคต


แหล่งที่มา : Ryt9

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.